จากกรณีมีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยยอมยกเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้พรรคก้าวไกล โดยพรรคเพื่อไทยจะนั่งรองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง มีเงื่อนไขว่าทั้ง 8 พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจะชู นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี หาก นายพิธา ไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ พรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลจะอยู่ช่วยพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลไม่แยกตัวออกไปไหนนั้น ล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไม่รู้ที่มาที่ไปของข่าวดังกล่าว
คำพูดจาก เว็บสล็อต777
โดย นพ.ชลน่าน บอกว่า เมื่อวานนี้ยังอยู่กับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ก็ยังมีการพูดคุยถึงแนวทางต่างๆ ที่เราจะไปพูดคุย เจรจากับพรรคก้าวไกล รวมถึงกระบวนการเพื่อขอมติพรรค 3 ก.ค. ก่อนที่จะมีการโหวตประธานสภา 4 ก.ค.
“เพื่อไทย” ยอมถอย ให้ประธานสภาฯ “ก้าวไกล”
ย้อนรอย“ดีลรัก” เพื่อไทย-ก้าวไกล กับอุปสรรค “ประธานสภา”
“แปลกใจกับข่าวที่ออกมา น่าจะเป็นเรื่องของการปล่อยข่าวมากกว่า ยิ่งปล่อยข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนตัวก็พูดมาตลอดว่าเพื่อไทยไม่มีแผน 2 แผน 3 เพราะเราเคารพพรรคแกนนำ มีแผนเดียว คือ สนับสนุนพรรคแกนนำและสนับสนุนให้ นายพิธา เป็นนายกเท่านั้น เพราะหากเราไปพูดถึงแผน 2 แผน 3 มันก็คือการสมมติ หากใช้คำว่า "ถ้า" มันก็จะถูกตีความเยอะ ฉะนั้นจะมาบอกว่าเราไปขอเป็นแกนนำอะไรต่างๆ ยืนยันมันไม่มี ในสิ่งที่ได้พูดคุยกัน และในสิ่งที่ตนได้สื่อสารออกไป”
นพ.ชลน่าน ย้ำว่า คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก บางคนไปตีความ สิ่งที่สื่อสารออกไปผิด ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า เปรียบประชาชนเป็นพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้เขามาอย่างไรเราก็ต้องทำ แม้เราไม่เห็นด้วยในเรื่องนั้นตนก็เลยเปรียบเทียบ ให้ฟังกลับไปตีความผิด กลายเป็นว่าไม่รักกัน มันไม่ใช่ไม่รักกัน การคลุมถุงชนมันไม่ใช่ว่ารักหรือไม่รัก จริงอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจมีไม่รักแต่ถูกจับมาแต่ง บางครอบครัวเขาไม่เคยเจอกันเลยแต่ถูกจับมาแต่งเขาก็รักกัน เป็นคู่ชีวิตที่ยั่งยืน อย่างเช่นคนจีนที่มีครอบครัวเข้มแข็ง ความหมาย คือ เพียงแค่จะต้องการให้เห็นความสำคัญของประชาชน ว่าเขามอบอำนาจมาให้เราเหมือนพ่อเหมือนแม่ ดังนั้นเราเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคิดอย่างอื่นเลย ต้องการจะเปรียบเทียบเท่านี้ แต่อาจจะสื่อสาร ไขว้เขวก็ต้องขออภัย
เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งรองประธานสภา 2 คน และเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลแทนหากก้าวไกลทำไม่สำเร็จนั้น นพ.ชลน่าน ยืนยัน เป็นการปล่อยข่าว ระดับแกนนำเองก็ยังงง ว่ามายังไง เพราะไม่ใช่ผลดีกับพรรคแน่นอน และคนที่ปล่อยข่าวมาอ้างตัวว่าเป็นแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย อย่างนี้ยิ่งส่งผลไม่ดี ยิ่งทำให้เราตกเป็นจำเลยเข้าไปอีก ดังนั้นตนขอย้ำอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในฉันทามติของประชาชน สนับสนุนนายพิธาเป็นนายก และก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่เพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไขในการที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ